เรื่องแย่ของวงการฟุตบอลญี่ปุ่น
เรื่องแย่ของวงการฟุตบอลญี่ปุ่น
ใช่ว่าฟุตบอลญี่ปุ่นจะรุ่งเรืองไปซะทีเดียว ในช่วงระหว่างทางของการสร้างทีมไปเล่นฟุตบอลโลกในปี 1998 เป็นช่วงเดียวกับที่ เศรษฐกิจของประเทศไม่สู้ดีนัก โดยในปี1997 ยอดคนดูเจลีก ลดลงเนื่องจากผลกระทบของฟองสบู่ที่แตก จากเดิมที่มีจำนวนแฟนบอลเฉลี่ย กว่า 6 ล้านคน ต่อฤดูกาล เหลือเพียงแค่ 3.5 ล้านคนในฤดูกาลนั้น
ด้วยความที่เจลีก มีเอกลักษณ์ของตัวเอง และการแข่งขันมักจะถูกปรับเปลี่ยนในช่วงตั้งไข่ มีตั้งแต่แข่งขัน 2 สเตจ ในช่วงแรก, ยังมีการต่อเวลาเมื่อจบ90 นาที ออกไปอีก โดยในช่วงต่อเวลาจะใช้กฎ "โกลเด้นโกล" (ใครยิงประตูได้ชนะทันที) และ หากยังเสมอกัน ต้องยิงลูกโทษตัดสินหาผู้ชนะ การแข่งขันในรูปแบบดังกล่าวถูกใช้มาถึง 6 ปี ก่อนจะมาเปลี่ยนรูปแบบคือยังมีต่อเวลา แต่ไม่มียิงจุดโทษแล้ว ในฤดูกาล1999 และเปลี่ยนมาเป็นระบบสากลในช่วงหลังจบฟุตบอลโลก 2002 ที่ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพกับ เกาหลีใต้
ขณะที่ลีกยังมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ในช่วง10 ปีของการก่อตั้ง นักเตะที่ถูกอิมพอร์ตเข้ามาก็เลิกเล่นไปทีละคนสองคน แกรี่ ลินิเกอร์, ฮริสโต้ สตอยคอฟ, ดุงก้า, เลโอนาร์โด้ หรือแม้กระทั่ง อาร์แซน เวนเกอร์ ที่เข้ามาเป็นผู้จัดการทีม นาโกย่า แกรมปัส อโบกมือลาไปรับงานที่อาร์เซนอล เหล่านี้เป็นปัจจัยที่ทำให้เจลีกก่อนที่ญี่ปุ่นจะเป็นเจ้าภาพฟุตบอล ในปี 2002 ผู้ชมลดลง จนกระทั่งมีสโมสรล้มละลาย
หลังจากผ่านช่วงเวลาร้ายๆ เจลีกอาศัยกระแสฟุตบอลฟีเวอร์ ในช่วงที่ ญี่ปุ่น เป็นเจ้าภาพ บอลโลก2002 ร่วมกับ เกาหลีใต้ ที่สามารถผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้เป็นครั้งแรกภายใต้การคุมทัพของ "พ่อมดขาว" ฟิลลิปส์ ทรุสซิเยร์ แม้ว่าจะเป็นรอง เกาหลีใต้ เจ้าภาพร่วมที่จบในอันดับ 4 แต่กระแสฟุตบอลของญี่ปุ่น ส่งผลถึงเจลีกให้แฟนบอลกลับเข้ามาชมเกมในสนามกันแน่นขนัดอีกครั้ง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สนามต่างๆที่เคยใช้งานในฟุตบอลโลก ก็มีสโมสรจับจองใช้งานกันแบบไม่เสียเปล่า
สิ่งหนึ่งที่นับตั้งแต่การเข้าสู่ยุคตกต่ำและเกิดการเปลี่ยนแปลงคือความเข้าใจในฟุตบอลมากขึ้นของคนญี่ปุ่น หลังจากจบฤดูกาล2001 "ดราแกน สตอยโควิช" น่าจะเป็นนักเตะดังที่สุดของยุโรปที่มาค้าแข้งในญี่ปุ่นกับ นาโกย่า แกรมปัส เอต (ก่อนกลายเป็นผู้จัดการทีมในตำนานของนาโกย่า)
สโมสร เจลีก ไม่นิยมนำดาวโรยมาค้าแข้งอีกแล้ว ด้วยเหตุผลที่ว่า ค่าเหนื่อยสูงเกินไป และนักเตะญี่ปุ่นพัฒนาขึ้นมามากแล้ว หลายสโมสรจึงตัดสินใจ ไม่ทุ่มทุนที่อาจจะเสี่ยงสู่การล้มละลายได้ แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วง 2-3 ฤดูกาลหลัง บางสโมสรในเจลีกกลับมามีแนวคิดดึงอดีตสตาร์ดังเข้ามาสร้างสีสัน ไม่ว่าจะเป็น ลูคัส โพดอลสกี้ , อันเดรส อิเนียสต้า, ดาบิด บีย่า ที่อยู่กับ วิสเซล โกเบ, เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่เคยค้าแข้งกับ ซากัน โทซึ ถือว่าเป็น "ตัวเรียกแขก" ได้เป็นอย่างดี
เมื่อหลายสโมสรในเจลีก เรียนรู้ที่จะอยู่รอดทำให้นักเตะท้องถิ่นกลายเป็นขุมทรัพย์สำคัญที่นำพาพวกเขาเติบโตอย่างแข็งแกร่งอีกครั้ง ทุกสโมสรในญี่ปุ่นไม่รั้งตัวซุปเปอร์สตาร์เอาไว้กับทีมหากมีสโมสรในยุโรปสนใจ นอกจากโอกาสที่นักเตะจะได้พัฒนาตัวเองแล้ว เม็ดเงินที่สโมสรในยุโรปเหล่านั้นจ่ายมา ก็ไม่น้อยเลยทีเดียว
ตอนต่อไปตอนสุดท้าย เรามาดูกันว่า องค์ประกอบอะไรที่ทำให้ เจลีกกลายเป็นลีกที่โด่งดังไปทั่วเอเชีย โดยเฉพาะในประเทศไทย
#TheJourneyofLegends #JLeagueReturn #JLeague #Siamsport #เจลีก
เรารวบรวมข่าวกีฬาที่น่าสนใจที่ UFABET911 สำหรับนักเดิมพัน#TheJourneyofLegends #JLeagueReturn #JLeague #Siamsport #เจลีก
ข่าวฟุตบอลจาก SIAMSPORT.COM
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น